เพื่อนคู่คิดคนซื้อบ้าน-คอนโด รายงานความเคลื่อนไหวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

แนะรัฐบาลใหม่เร่งเดินหน้าเมกะโปรเจ็กต์-อีอีซี


แคปปิตอล วัน แนะรัฐบาลใหม่เร่งเครื่องเมกะโปรเจ็กต์-อีอีซี สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน บูมอสังหาฯ ศรีราชา-ชลบุรี

นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด บริษัทที่ปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีพอร์ตบริหารการขาย จำนวน 30,000 ล้านบาท เปิดเผยถึงแนวทางกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ว่า เรื่องโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) และนโยบายการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ควรมีความต่อเนื่องในโยบาย ดำเนินการออกกฎหมายที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนโดยเร็ว เพื่อให้ภาคธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีความเชื่อมั่นในการลงทุน ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่อีอีซี

วิทย์ กุลธนวิภาส
"ตอนนี้ นักลงทุนลังเลว่า นโยบายเมกะโปรเจ็กต์จะมีความต่อเนื่องหรือไม่ เพราะมีผลต่อการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเราหวังว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่จะมีการสานต่อในรัฐบาลประยุทธ์ 2 " นายวิทย์ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการไฮสปีดเทรนที่เชื่อมการเดินระหว่าง 3 สนามบิน เป็นโครงการที่สร้างความเจริญเติบโตและส่งเสริมการท่องเที่ยว ขณะที่อำเภอศรีราชา ในจังหวัดชลบุรี  จะยิ่งทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในศรีราชา ได้รับอานิสงส์มากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมา จากนโยบายของภาครัฐในการผลักดันโครงการอีอีซี ราคาที่ดินในศรีราชาปรับขึ้นไป 30% โดยเฉพาะที่ดินในเมืองซื้อขายประมาณ 350,000 บาทต่อตารางวา จากช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ราคาซื้อขายประมาณ 200,000 บาทต่อตารางวา นอกจากนี้ เซ็นทรัล ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจห้างสรรพสินค้า ได้ขยายลงทุนเปิดศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในศรีราชา บริเวณใกล้กับโรงเรียนดาราสมุทร อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี

ในขณะที่ นักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นและจีน มีการเข้าตั้งฐานการผลิตในพื้นที่ศรีราชาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยอดการขอรับส่งเสริมการลงทุนที่สูงขึ้นตั้งแต่ช่วง ม.ค.-พ.ค.2562 โดยมียอดรวมการลงทุน 63,651.92 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 ถึง 326% โดยประมาณ 70% เป็นการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ ในกลุ่มคอนโดมิเนียมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield ) ประมาณ 8%

ปัจจุบัน มีชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในศรีราชาประมาณ 30,000 คน และคาดว่าการเพิ่มขึ้นของโรงงานหรือการย้ายฐานธุรกิจจากประเทศจีนมาไทยจะมีมากขึ้น หลังจาก EEC มีความชัดเจน เพื่อลดผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน(Trade war) จะส่งผลให้ชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเข้ามาพื้นที่ศรีราชารวมเป็น 40,000 คน จะส่งผลต่อความต้องการห้องชุดที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยปัจจุบันซัพพลายในศรีราชามีสต๊อกคงเหลืออยู่ประมาณ 3,000 ยูนิต ในระดับราคา 80,000-120,000 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของ Expat และ กลุ่มลูกค้าบีบวกถึงเอ ส่วนใหญ่จะสร้างเสร็จมาแล้ว 1-2 ปีซึ่งไม่น่าเป็นห่วง
"ลูกค้าชาวจีน ซื้อและโอนเป็นปกติ ห้องชุดที่บริษัทแคปปิตอล วัน บริหารยังสามารถโอนได้หมด ไม่มีการทิ้งดาวน์ เนื่องจากทางโครงการมีการเก็บเงินดาวน์จากลูกค้าชาวจีนหรือชาวต่างประเทศ 30%"
นายวิทย์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลประยุทธ์สอง ควรเร่งกระตุ้นภาคเศรษฐกิจในระยะสั้นโดยเร็ว  เพื่อให้อารมณ์ของคนซื้อดีขึ้น เช่น ภาพรวมการออกมาตรการลดภาษีระยะสั้น ซึ่งเราต้องใช้เครื่องมือทางนโยบายการเงินและการคลังควบคู่กันไป มาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ที่จะส่งผลให้เกิดการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ รัฐบาลใหม่ ควรมาทบทวนเรื่องมาตรการกำกับสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ (LTV) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ดำเนินมาตรการมาแล้ว 2 เดือน (เริ่ม 1 เมษายน 2562) ได้ส่งผลกระทบภาคอสังหาฯและผู้ที่จะซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เคยทำงานสื่อสารมวลชนสายเศรษฐกิจ อสังหาริมทรัพย์ และการตลาด มายาวนานกว่า 25 ปี กับหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ โพสต์ทูเดย์ และเว็บไซต์ Baania

ติดตามผ่าน Facebook

คลิปวิดีโอน่าสนใจ

ข่าวฮอต

Upgrade 25 ทำเลทั่วกรุงรองรับโครงข่ายรถไฟฟ้า(ตอนที่ 1)

ในร่างผังเมืองรวมกรุงเทพฯฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 จะมี 25 พื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ที่ได้ถูกปรับสีการใช้ประโยชน์ที่ดินอัพเลเวลให้เข้มข้นขึ้น เพ...

ค้นหาบล็อกนี้

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Translate