เป็นที่คาดหมายกันมาก่อนหน้านี้แล้วว่า
ผลประกอบการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 1
จะอู้ฟู่ฟูฟ่องกันถ้วนหน้า
เพราะแต่ละรายเร่งอัดแคมเปญหนีตายจากมาตรการคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย
ส่วนผู้บริโภคบางส่วนก็เร่งซื้อเร่งโอน เพราะเข้าใจกันไปว่า หลังจาก 1 เมษายน จะกู้เงินไม่ได้ ยอดโอนในไตรมาส 1 จึงทะลักทลาย
จากตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ในพื้นที่กทม.และปริมณฑลไตรมาสแรก
พบว่า จำนวนที่อยู่อาศัยที่โอนกรรมสิทธิ์ โตขึ้น 9.6%
ขณะที่มูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 27.8% เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับผลประกอบการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ไตรมาสแรกอสังหารายใหญ่อู่ฟู่
ล่าสุด บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
ประกาศผลประกอบการในไตรมาส 1 ก็สามารถทำผลงานได้ดีซึ่งแน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจากการยอดขาย
ยอดโอนที่เพิ่มขึ้นก่อนมาตรการคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย
นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง กล่าวว่า
บริษัททำกำไรสุทธิเติบโตถึง 96% อยู่ที่ 1,686
ล้านบาท
สูงขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 862 ล้าน สร้างรายได้อยู่ที่ 11,881 ล้านบาท เติบโตขึ้น 44%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 8,274
ล้านบาท และทำยอดขายได้ 11,178 ล้านบาท
พฤกษาเปิดธุรกิจใหม่ลุยอีคอมเมิร์ซ
สำหรับแผนการดำเนินงานในไตรมาส 2
พฤกษามีแผนยกระดับขีดความสามารถการขายให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น
ด้วยธุรกิจใหม่ “DEAL” ให้บริการด้านการซื้อ ขาย เช่า
ที่อยู่อาศัย โดยการนำ Digital Platform มาใช้พัฒนาระบบ AI
Matching เพื่อเลือกที่อยู่อาศัยให้ตรงใจกับความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้จะต่อยอดผ่านธุรกิจ E-Commerce โดยเป็นการจับมือกับ
Shopee ผู้นำด้านธุรกิจ E-Commerce โดยจะเริ่มจัดโปรโมชั่นในวันที่
6 เดือน 6 เพื่อมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าในการจองบ้านเพียง
6 บาท ผ่าน Shopee
ด้านแผนการเปิดโครงการในไตรมาส 2
บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่จำนวน 17 โครงการ
มูลค่า 22,450 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 8 โครงการ บ้านเดี่ยว 7 โครงการ และโครงการพรีเมียม 2
โครงการ
ศุภาลัยชี้ LTV
ช่วยดันยอดโอนพุ่ง
ด้านนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท
ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในรอบไตรมาส 1
ของปี 2562 เมื่อเทียบกับปี 2561 บริษัทฯ สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในด้านตัวเลขของกำไรสุทธิ
และรายได้รวม โดยมีกำไรสุทธิ จำนวน 1,527 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 65% อีกทั้งรายได้รวม จำนวน 6,415 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% ซึ่งรายได้หลักมาจากการทยอยส่งมอบคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบโครงการต่างๆ
ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
สำหรับไตรมาส 2
ศุภาลัยมีแผนงานเปิดตัวโครงการใหม่อีก 7 โครงการ มูลค่ากว่า 18,400 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ
จำนวน 6 โครงการ และคอนโดมิเนียม จำนวน 1 โครงการ ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองภูมิภาค เพื่อผลักดันยอดขายสู่ 35,000
ล้านบาท
เปิดผลประกอบการ Q1
โตถ้วนหน้า
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ
สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า
ในไตรมาสแรก เอพีสร้างยอดขายรวมได้เป็นที่น่าพอใจ โดยมีมูลค่ารวมกว่า 12,585
ล้านบาท คิดเป็น 30% ของเป้ายอดขายปี 2562
ที่ตั้งไว้ 41,800 ล้านบาท
และมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาส 2/2562 จำนวนทั้งสิ้น 13
โครงการ มูลค่า 19,720 ล้านบาท
ทั้งนี้ เอพี ได้แจ้งผลประกอบการประจำไตรมาส
โดยมีรายได้อยู่ที่ 7,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.2% จากรายได้ 5,515 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
และมีกำไรสุทธิ 1,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้ย 24.6% โดยมีการเติบโตอย่างโดดเด่นจากโครงการแนวราบที่สร้างรายได้สูงสุดอีกครั้งที่
5,985 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51.7 %จากปีก่อน
ขณะที่บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ได้แจ้งผลประกอบการในไตรมาส 1 โดยระบุว่า
มีรายได้จากการขาย 2,493 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7%
และมีกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 17.32%
ก่อนหน้านี้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
(มหาชน) ได้ประกาศผลการดำเนินงานโดยนายพีระพงศ์ จรูญเอก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1
บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,453.3 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี
2561 สาเหตุหลักมาจากมีโครงการที่ทยอยรับรู้รายได้ได้อย่างต่อเนื่องจากปี
2561 ขณะที่กำไรสุทธิประจำไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 720.6 ล้านบาท เติบโตขึ้น 47%
นอกจากนี้ ยังทำยอด Presale
ไตรมาสแรกได้ประมาณ 5,670.3 ล้านบาท
หรือเพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการนำเสนอโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
โดยในไตรมาส 2/2562 ออริจิ้นมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 3
โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,400 ล้านบาท ได้แก่
โครงการ พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท
โครงการ เคนซิงตัน ดริสทริค ระยอง มูลค่า 500 ล้านบาท
และโครงการ ดิ ออริจิ้น รามคำแหง มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท
ด้านนายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท
ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1
บริษัทมีรายได้รวม 852.36 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 277.92 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48.4% เมื่อเทียบจากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 97.06 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 12.74 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15.11% เมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ 4
โครงการ มูลค่ารวม 669.98 ล้านบาท
คงเห็นกันแล้วว่า ไตรมาสแรกแทบทุกบริษัทสอบผ่าน
โดยมีการเร่งโอนจากมาตรการ LTV
เป็นตัวกระตุ้น แต่คงต้องมารอดูผลสอบในไตรมาส 2 ที่มาตรการ LTV เริ่มมีผล ผนวกกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังอึมครึมจากการเมืองที่ยังไม่นิ่ง
สงครามการค้าสหรัฐ-จีนที่ทั่วโลกกำลังหวาดหวั่น
มันอาจจะทำให้ผู้ประกอบการต้องเหนื่อยกันอีกหลายยกทีเดียว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น