เพื่อนคู่คิดคนซื้อบ้าน-คอนโด รายงานความเคลื่อนไหวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ตรวจการบ้านผลประกอบการ Q 1 บริษัทไหนแจ่ม-แจ๋ว



ผลประกอบการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์(เฉพาะบริษัทที่มีรายได้จากการพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นหลักและไม่รวมรายได้จากโครงการร่วมทุน)ในไตรมาส 1 ของปี 2562 บอกได้เลยว่า บริษัทส่วนใหญ่ทำผลงานได้ดี ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย. 62 ทำให้เกิดการเร่งขายเร่งโอนจนทำให้รายได้ในไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีรายได้รวมในไตรมาสแรกปี 2562 อยู่ที่ 87,422 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมไตรมาสแรกปี 2561 อยู่ที่ 67,301 ล้านบาท

ถ้านับเฉพาะรายได้ที่เกิดจากการขายอสังหาริมทรัพย์ ในไตรมาส 1 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรวมๆ กันกว่า 30 บริษัท มีรายได้จากการขายรวม 75,916 ล้านบาท เติบโตประมาณ 30% เช่นกัน เมื่อเทียบกับรายได้จากการขายในไตรมมาสแรกปี 2561 ที่มีจำนวน 58,304 ล้านบาท ขณะที่กำไรในไตรมาสแรกของปี 2562 อยู่ที่ 13,215 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 41% จากไตรมาสแรกปี 2561 ที่ทำกำไรได้ 9,372 ล้านบาท

สำหรับ 10 อันดับบริษัทที่ทำรายได้รวมสูงสุด ได้แก่ 1.บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม 11,909 ล้านบาท เป็นบริษัทเดียวที่ทำรายได้เกิน 10,000 ล้านบาท อันดับ 2 บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม  7,800 ล้านบาท ขณะที่บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เข้าป้ายมาเป็นอันดับ 3 ด้วยรายได้รวม  7,127 ล้านบาท ส่วนอันดับ 4 เป็นของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม  6,638 ล้านบาท เฉือนอันดับ 5 บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่มีรายได้รวม  6,415 ล้านบาท

อันดับ 6.บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม  5,689 ล้านบาท อันดับ 7 เป็นของ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม  4,888 ล้านบาท อันดับ 8 บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม  3,691 ล้านบาท ตามมาติดๆ ด้วยอันดับ 9 บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และ 10 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่มีรายได้รวม  3,498 ล้านบาท และ 3,453 ล้านบาท ตามลำดับ

คราวนี้มาว่ากันที่รายได้จากการขายเพียวๆ กันหน่อยว่าบริษัทไหนขายดีสุด ซึ่งก็คงหนีไม่พ้น 10 อันดับแรกของบริษัทที่มียอดขายรวมสูงสุดเพียงแต่มีการสลับตำแหน่งกันเล็กน้อย โดยเบอร์ 1 และ 2 ยังเป็น บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง และบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) ด้วยรายได้จากการขาย  11,881 ล้านบาท และ 7,502 ล้านบาท ตามลำดับ อันดับ 3 เปลี่ยนมาเป็นบริษัท ศุภาลัย มีรายได้จากการขาย  6,252 ล้านบาท บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ลงมาอยู่อันดับ 4 มีรายได้จากการขายที่ 5,698 ล้านบาท โดยบริษัท แสนสิริ มาอยู่ที่อันดับ 5 ด้วยรายได้จากการขาย  4,892 ล้านบาท

อันดับ 6 ตกเป็นของ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ มีรายได้จากการขาย 4,399 ล้านบาท บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค สลับมาอยู่อันดับ 7 ด้วยรายได้จากการขาย 3,905 ล้านบาท ส่วนอันดับ 8 9 10 ยังคงเดิม คือ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ มีรายได้จากการขาย 3,663 ล้านบาท บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ 3,053 ล้านบาท และบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  3,000 ล้านบาท ตามลำดับ

แต่ถ้าพูดถึงกำไร บริษัทที่เป็นอันดับ 1 ในเรื่องนี้ก็คือ  บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ มีกำไรประจำงวดที่  1,830 ล้านบาท ส่วนอันดับ 2 เป็นบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 อยู่ที่  1,716 ล้านบาท อันดับ 3 เป็นของบริษัท ศุภาลัย มีกำไร 1,544 ล้านบาท อันดับ 4 ได้แก่ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ มีกำไร  1,309 ล้านบาท ส่วนอันดับ 5 เป็นของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) มีกำไรอยู่ที่  1,077 ล้านบาท

สำหรับอันดับ 6 ของบริษัทที่ทำกำไรได้สูงสุด ได้แก่ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ มีกำไรในไตรมาสแรก  869 ล้านบาท อันดับ 7 เป็นบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กำไร  720 ล้านบาท บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) อันดับ 8 กำไร  656 ล้านบาท อันดับ 9 บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคมีกำไร  615 ล้านบาท และอันดับ 10 บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีกำไร 404 ล้านบาท



ในด้านประสิทธิภาพการดำเนินการ 5 อันดับแรก เริ่มจากอัตรากำไรสุทธิ เบอร์ 1 ตกเป็นของ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ มีอัตรากำไร 35.47% อันดับ 2 บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ มีอัตรากำไร 32.8% อันดับ 3 ได้แก่ บริษัท ศุภาลัย มีอัตรากำไร 23.81% อันดับ 4 บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ อัตรากำไรอยู่ที่ 22.86% และอันดับ 5  บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ อัตรากำไรที่ 21.99%

สำหรับอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น หรือ ROE (Retuon On Equity) อันดับ 1 ได้แก่ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มี ROE สูงถึง 50.24% อันดับ 2 บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ 35.03% อันดับ 3 บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 ROE 22.62% อันดับ 4 บริษัท ศุภาลัย ROE 19.96% และอันดับ 5 บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ROE 18.97%

ส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ หรือ ROA (Retuon On Assets) อันดับ 1 ได้แก่ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ROA 18.45% อันดับ 2 บริษัท ศุภาลัย 14.29 อันดับ 3 บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ROA 12.12% อันดับ 4 บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง 11.15% และอันดับ 5 บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ มี ROA 10.67%

คงต้องลุ้นกันต่อในไตรมาส 2-4 ว่า บริษัทอสังหาฯจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่มีแต่ปัญหารุมเร้ากันไปได้หรือไม่ หรือว่าผลประกอบการไตรมาสแรกจะเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดของปีนี้ อย่างที่หลายๆ คนประเมินไว้ มารอดูกันต่อไป





Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
เคยทำงานสื่อสารมวลชนสายเศรษฐกิจ อสังหาริมทรัพย์ และการตลาด มายาวนานกว่า 25 ปี กับหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ โพสต์ทูเดย์ และเว็บไซต์ Baania

ติดตามผ่าน Facebook

คลิปวิดีโอน่าสนใจ

ข่าวฮอต

Upgrade 25 ทำเลทั่วกรุงรองรับโครงข่ายรถไฟฟ้า(ตอนที่ 1)

ในร่างผังเมืองรวมกรุงเทพฯฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 จะมี 25 พื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ ที่ได้ถูกปรับสีการใช้ประโยชน์ที่ดินอัพเลเวลให้เข้มข้นขึ้น เพ...

ค้นหาบล็อกนี้

Blog Archive

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Translate